Consortium กลุ่มทุนใหม่ ได้ทำการตกลงซื้อสโมสร เชลซี 1 ในสโมสรที่ยิ่งใหญ่จาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และถือว่าเป็นการสิ้นสุดในยุคของ โรมัน อับราโมวิช เจ้าของคนเก่า อย่างเต็มตัว และ ท็อดด์ โบห์ลี คือใคร?
อีก 1 คำถามที่ตามมาแน่นอนหลังจาก แฟนบอลหลายคนรับรู้ข่าวนี้ว่า Consortium และ ท็อดด์ โบห์ลี พวกเขาเป็นใคร? เคยทำอะไรมา? และทัศนะคติของพวกเขาเป็นอย่างไร? วันนี้ทางเรา เว็บแทงบอลออนไลน์ จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับกลุ่มทุน Consortium กลุ่มทุนใหม่ที่เป็นเจ้าของเชลซีในเวลานี้ แต่ยังคงรอการรับรองจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แค่เท่านั้นก็จะถือว่า เชลซี ได้เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 19 ปี !
Consortium มีใครบ้าง ?
- ท็อดด์ โบห์ลี
Consortium คือชื่อกลุ่มทุนที่นำโดย ท็อดด์ โบห์ลี นักธุรกิจ นักลงทุน และมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน เขาเป็นเจ้าบริษัทด้านการลงทุนชื่อ เอลดริดจ์ (Eldridge Industries LLC) และเป็นเจ้าของร่วมของทีมกีฬาเบสบอล ที่ชื่อว่า ลอสแอนเจลิส ดอดจ์เจอร์ส (Los Angeles Dodgers) ทีมีตำแหน่งแชมป์เวิร์ด ซีรีส์ 7 สมัย แถมเขายังเป็นหุ้นส่วนของทีมกี่ฬาบาสเก็ตบอลชื่อดังอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส (LA Laker) ทีมบาสยักษ์ใหญ่ในศึก NBA และ แอลเอ สปาร์กส (LA Sparks) ทีมบาสเก็ตบอลหญิงในเมืองเดียวกัน และนั้นหมายถึงเขาได้ผ่านงานวงการกีฬามามากมายพอสมควร เพราะเมื่อปี 2013 ท็อดด์ โบห์ลี เขาได้เริ่มธุรกิจกับบริษัทเคเบิ้ลเจ้าใหญ่ และสร้างเครือข่ายการถ่ายทอดสดงานเกียวกับกีฬาเบสบอล และต่อมาในปี 2015 เขาก็ได้ก่อตั้ง เอลดริดจ์ (Eldridge Industries LLC) ขึ้นมา โดยเอลดริดจ์มีหุ้นจากหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น หุ้นในอุตสาหกรรม, โรงแรม, อสังหาฯ, เทคโนโลยี, อาหารและสื่อบันเทิง อย่างเช่น บิลบอร์ด (Billboard) และจากการรายงานของนิตยสาร ฟอร์บส์ (Forbes) ในปี 2020ได้เคยรายงานไว้ว่า ตัวของ ท็อดด์ โบห์ลี ในวัย 46 ปี เขามีทรัพย์สินอยู่ประมาณ 3.6 พันล้านปอนด์
- มาร์ค วอลเตอร์
1 ในเจ้าของร่วมของทีมเบสบอลชื่อดังอย่าง ลอสแอนเจลิส ดอดจ์เจอร์ส (Los Angeles Dodgers) กับตัวของ ท็อดด์ โบห์ลี
- ฮันส์ยอร์ก วีสส์
มหาเศรษฐีชาวสวิตเซอร์แลนด์ เป็นคนแรกในกลุ่มทุน Consortium ที่เผยข่าวในการเดินเรื่องซื้อสโมสรเชลซี
- โจนาทาน โกลด์สตีน
CEO ของ เค อินเตอร์เนชั่นแนล (Cain International) และเป็นแฟนบอลของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
- ดาเนียล ฟิงเคิลสไตน์
นักข่าวชาวอังกฤษ ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของสโมสรเชลซี
- บาร์บารา ชาโรนี
ผู้บริหารชาวอเมริกัน ทำงานด้านประชาสัมพันธ์ของกลุ่มทุน
2012 พลิกชีวิตทีม ดอดจ์เจอร์ส
ในปี 2012 ท็อดด์ โบห์ลี ได้จับมือกับ มาร์ค วอลเตอร์ ซื้อทีม ลอสแอนเจลิส ดอดจ์เจอร์ส (Los Angeles Dodgers) ทีมในช่วงเวลานั้นถือว่าเป็นทีมเบสบอลที่กำลังตกต่ำและย่ำแย่มากในปีนั้น แต่ด้วยการเปลี่ยนเจ้าของใหม่มาเป็น ท็อดด์ โบห์ลี และ มาร์ค วอลเตอร์ ก็ทำให้ทีม ลอสแอนเจลิส ดอดจ์เจอร์ส กลับมาได้แชมป์เวิลด์ซีรีส์ในปี 2020 จนได้
2019 ยื่นซื้อเชลซีครั้งแรก
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 ตัวของ ท็อดด์ โบห์ลี เองก็เคยยื่นเรื่องขอซื้อสโมสรเชลซีกับเจ้าของทีมเก่าอย่าง โรมัน อับราโมวิช ด้วยวงเงิน 2.2 พันล้านปอนด์ แต่ก็ถูกปฏิเสธไปในครั้งนั้น
ความลับในการพลิก ดอดจ์เจอร์ส สู่ทีมที่ยิ่งใหญ
ท็อดด์ โบห์ลี ได้เคยให้สัมภาษณ์ในเรื่องเคล็ดลับความสำเร็จของทีม ลอสแอนเจลิส ดอดจ์เจอร์ส ที่กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง โดย ท็อดด์ โบห์ลี ได้พูดเอาไว้ว่า
“ในตอนสุดท้ายแล้ว พวกเราต้องการแฟนๆกลับมาเข้าสนาม เราต้องการให้ทุกคนรู้ที่รักทีมรู้สึกกระหายชัยชนะ และคุณแค่ต้องจำไว้เสมอว่า แฟน คือศูนย์กลาง เมื่อไหร่ก็ตามที่ไขว้เขว ต้องกลับมานึกให้ได้ว่า แฟนๆต้องมาก่อน !” ท็อดด์ โบห์ลี กล่าว.
ในวันที่สิงห์บลู เปลี่ยนจากหมีขาวเป็นอินทรีย์
เมื่อหลายๆคนได้อ่านประวัติโดยคร่าวๆของกลุ่มทุน Consortium ไปแล้ว ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงจะอดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าของทีมคนเก่าอย่าง โรมัน อับราโมวิช และเจ้าของทีมคนใหม่อย่าง ท็อดด์ โบห์ลี มีความแตกต่างกันอย่างไร แน่นอนว่าการทำทีมแบบ ท็อดด์ โบห์ลี แน่นอนว่าเขาเข้าใจธุรกิจในวงการกีฬา แต่ผมเชื่อว่า ท็อดด์ โบห์ลี จะไม่ยอมสูญเงินไปแบบสูญเปล่าอย่างที่ โรมัน อับราโมวิช เคยทำเอาไว้นั้นเอง และในการเปลี่ยนเจ้าของทีมครั้งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง เพราะว่าสโมสรเชลซีในเวลานี้ จบด้วยมูลค่า 4,250 ล้านปอนด์ (1.8 แสนล้านบาท) ถือว่าเป็นการซื้อทีมที่แพงที่สุดในเวลานี้อีกด้วย !
การเดินทางของเชลซี
โรมัน อับราโมวิช เข้ามาซื้อสโมสรเชลซี ในปี 2003 ด้วยมูลค่าประมาณ 140 ล้านปอนด์ (6 พันล้านบาท) และผ่านมา 19 ปี ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้เจ้าของเป็นคนรัสเซีย แม้เชลซีจะคว้าถ้วยแชมป์ได้มากถึง 21 ใบ และในจำนวนนี้มี แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2 สมัย (2012,2021) และถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีก 5 สมัย (2005, 2006, 2010, 2015, 2017) ต่อให้ได้ถ้วยแชมป์เยอะ
แต่ในทางกลับกันสโมสรเชลซีแห่งนี้กลับมีตัวเลขในบัญีสวนทางกับความสำเร็จ เพราะในตลอด 19 ปีที่ผ่านมาสโมสรเชลซีมีผลประกอบการที่ขาดทุนทุกปี เป็นเวลา 19 ปี และมีจำนวนสูงถึง 900 ล้านปอนด์ (38 หมื่นล้านบาท) และเงินในจำนวนนี้ ยังไม่ได้รวมกับเงินที่ โรมัน อับราโมวิช ควักเงินส่วนตัวให้สโมสรเชลซีกู้อีกประมาณ 1,600 ล้านปอนด์ (69 หมื่นล้านบาท)
อีก 1 ทีมยักษใหญ่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่กำลังจะถึงเวลาในการเปลี่ยนแปลง เชลซีจะไปต่อในหนทางใด จะเลือกเดินผิดหรือถูกเราก็ได้แต่รอดูต่อไป..